จินตนาการสำหรับผมนั้นคือสิ่งที่สวยงาม อะไรที่เป็นไปไม่ได้ในโลกความจริง แต่ในจินตนาการนั้นเป็นไปได้ อย่างตอนเด็กๆเคยจินตนาการว่าได้เป็นนักฟุตบอลที่ใส่เสื้อเบอร์ 10 เล่นในตำแหน่งมิดฟิวส์ตัวกลางที่คอยทำหน้าที่บัชญาเกมส์ทั้งรุกและรับแบบ ดิดิเย่ส์ เดชองส์ ของฝรั่งเศส และจินตนาการไปว่าตัวเองเป็นนักฟุตบอลของไทยที่ได้ไปเล่นให้กับยูเวนตุส ในอิตาลี แล้วก็ใส่เบอร์ 10 ที่เป็นของทั้ง พลาตินี่, บาจโจ้, เดลปิเอโร่ ช่วงจินตนาการว่าได้ใส่เบอร์ 10 ลงสนามในเสื้อลายทางขาวดำของยูเวนตุส ได้เล่นในกัลโช่ ยิงฟรีคิกเป็นประตูชัยให้ทีมได้แชมป์กัลโช่ แล้วจินตนาการไปว่าตัวเองพายูเว่เข้าชิงฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก แล้วนัดชิงก็สามารถยิงฟรีคิกพาทีมเป็นแชมป์ยุโรปได้อีก แล้วจินตนาการไปอีกว่าได้โอนสัญชาติจากไทยไปเป็นอิตาลี ลงเล่นให้ทีมชาติอิตาลีกับ บาจโจ้, วิอัลลี่, ราวาเนลี่, เดลปิเอโร่, มัลดินี่ แล้วก็เปรุสซี่ แล้วก็พาอิตาลีเป็นแชมป์โลก...พอมาตอนนี้มานั่งวิเคราะห์จินตนาการของตัวเอง พบว่ามันสูงส่งเอามากๆ แต่จินตานาการส่วนนี้ก็มีอิทธิพลกับตัวเองมากด้วย ในเรื่องของเวลาเล่นบอลกีฬาสี คือยังไงๆก็ต้องใส่เบอร์ 10 ไม่งั้นจะให้เล่นบอลแบบไม่มั่นใจ คือหมายเลข 10 มีอิทธิพลมาก หมายเลข 10 ในสนามฟุตบอลหมายคนที่เก่งที่สุดของทีมนั้น เป็นที่พึ่งพาของเพื่อนร่วมทีม เป็นหวาดกลัวของฝั่งตรงข้าม เป็นขวัญใจของแฟนบอล เป็นทุกๆอย่างของทีม แล้วคนที่ใส่หมายเลข 10 ก็จะมีอิทธิพลกับทีมมากมาย เวลาออกมาพูดอะไรก็จะเป็นที่สนใจ พูดรวมๆก็คือว่าเป็นพระเจ้าของทีมนั้นเอง ในส่วนของจินตนาการที่คิดนั้น ในขณะนั้นที่ยังเป็นเด็กนั้น คงกำลังอยากจะเป็นที่สนใจของคนอื่นๆ จึงต้องการที่จะเป็น และมีความคิดที่บ้าอำนาจพอสมควร ต้องการที่จะสั่งนู้นสั่งนี่คนอื่น ชอบบงการ ชอบเล่นเกมส์ความคิด ชอบคาดการณ์คิดในสิ่งต่างที่กำลังจะเกิดขึ้น แล้ววางแผนเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ...
หรืออย่างในอีกจินตนาการที่จินตนาการออกมาบ่อยๆก็คือเหตุการณ์ร่วม เช่นดูหนัง ก็ชอบจินตนาการว่าตัวเองคือตัวเอกของเรื่อง แล้วถ้าเหตุการณ์มามาแบบนี้ก็จินตนาการไปอีก คงจะไม่ทำเหมือนตัวเอกหรอก แต่จะทำให้สะใจกว่านั้นอีก หรือก็จินตนาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แล้วก็จะจินตนาการต่อไปว่าหลังจากนี้ถ้าเป็นตัวเองจะทำอะไรต่อไป หรือจะพูดอะไรดี แล้วก็จะจินตนาการถึงผลลัพธ์ที่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาอีก...ถ้าจะนั่งวิเคราะห์จริงๆแล้ว คิดว่าจินตนาการในส่วนนี้ของตัวเอง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการ หรืออยากให้เป็น เป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ ณ ขณะนั้น เป็นแบบสิ่งที่ตัวเองอยากให้เป็น คิดแต่ผลลัพธ์ข้างหน้าที่สะใจตัวเอง แต่ไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาในภายหลังว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถือว่าเป็นความคิดดิบที่ออกมาจากหัวใจ มิได้ผ่านการกลั่นกลองจากสมองแต่อย่างใด
No comments:
Post a Comment